Front
office

Front office ในที่นี้หมายถึงงานต้อนรับแขกผู้มาพักของโรงแรมค่ะ
สาเหตุที่หนูเลือกที่จะพูดเกี่ยวกับอาชีพนี้ก็เพราะมันเป็นงานที่เป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่งของการท่องเที่ยว
ธุรกิจที่นำรายได้มากสู่ประเทศไทยมากที่สุด และเป็นวิธีที่คนไทยชอบเสียให้ต่างชาติมากที่สุดเช่นกัน
มีคนเคยกล่าวว่า
ถ้าให้การต้อนรับดี ภารกิจของโรงแรมก็เหมือนกับเรียบร้อยไปแล้วครึ่งหนึ่ง
แต่ถ้าการต้อนรับไม่ดีก็เป็นการยากมากที่จะแก้ไขให้ความรู้สึกของแขกได้
หน้าที่ของแผนกต้อนรับ
หรือสำนักงานส่วนหน้านั้นอาจเปรียบได้กับศูนย์รวมเส้นประสาทหรือศูนย์ประสานงานของโรงแรม
และมีบทบาทสำคัญในการติดต่อประสานงานกับแผนกอื่น ๆ
ในโรงแรมเพื่อช่วยเหลือเรื่องต่าง ๆ เมื่อแขกเรียกร้อง
คุณสมบัติของคนที่ทำงานประเภทนี้คือจะต้องเป็นคนที่ยิ้มแย้มแจ่มใส
มีใจที่เปิดกว้าง สามารถยอมรับความแตกต่าง สามารถใช้ภาษาต่างประเทศได้ดี มีความรู้รอบตัวและที่สำคัญที่สุด
ก็คือต้องมีหัวใจบริการ แล้วไอ้หัวใจบริการตัวนี้น่ะไม่ใช่เพียงแค่การแต่งตัวสวยเป๊ะ
หน้าเด้ง ยืนหน้าแบกกราวนด์ประดับช่อดอกไม้ ยกมือไหว้แขก (หรือฝรั่ง) หล่อๆ เพียงอย่างเดียวนะคะ
แต่หมายถึงการควบคุมอารมณ์ให้มั่นคงอยู่เสมอเพื่อตอบรับความต้องการของแขกแม้ว่ามันจะยากเพียงแค่ไหนก็ตาม
มองในแง่หนึ่งอาจจะคิดว่ามันสวยหรู ได้ทำงานในที่สวยๆ ประหนึ่งสวรรค์
แต่ในความเป็นจริงแล้ว งานบริการทุกงานแทบจะเรียกได้ว่ากระทะทองแดงเชียวล่ะค่ะ
สำหรับตำแหน่งในแผนกต้อนรับโดยทั่วไป
มีดังนี้
- ผู้จัดการสำนักงานส่วนหน้า (Front Office Manager) มีหน้าที่ดูแลควบคุมให้การดำเนินงานของแผนกต้อนรับเป็นไปโดยราบรื่น และมีประสิทธิภาพ
- พนักงานต้อนรับ (Reception) เมื่อแขกเดินเข้ามาในโรงแรมพนักงานต้อนรับจะเป็นบุคคลแรกที่แขกพูดด้วย โดยพนักงานต้อนรับจะต้องทักทายและให้การต้อนรับแขก ลงทะเบียนแขกและจ่ายห้อง จ่ายกุญแจ รวมการต้อบข้อซักถามและจัดการเกี่ยวกับเรื่องที่แขกไม่พอใจ รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายด้านอาหารและเครื่องดื่มจากห้องอาหารและบาร์ ตลอดจนค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับการซักรีดเป็นต้น และนอกจากนี้อาจจะต้องคิดต่อประสานงานกับแผนกอื่น ๆ ในเรื่องต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับแขกด้วย
- พนักงานสัมภาระ (Hall Porter)จะคอยต้อนรับแขกที่เข้ามาในโรงแรม ให้ข้อมูลเกี่ยวกับโรงแรมทั้งบอกทางไปยังจุดต่างๆ ในโรงแรม หากแขกเข้าพักห้องก็ต้องช่วยแขกขนสัมภาระต่าง ๆ ไปที่ห้องพัก และเมื่อแขกจะกลับก็ต้องขนของลงมาจากห้องพักเช่นกัน นอกจากนี้ยังมีงานอื่น ๆ ที่ต้องทำอีก เช่น การจดข้อความที่มีผู้สั่งความถึงแขกไว้ ดูแลกุญแจห้องพักแขก ให้คำแนะนำเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ วิธีการเดินทางและรายละเอียดที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ ช่วยแขกเรียกรถแท็กซี่ ช่วยจองตั๋วรถ/เรือ/เครื่องบิน ช่วยจัดห้องประชุมด้วยการช่วยขนย้ายโต๊ะ เก้าอี้ เป็นต้น สามารถแบ่งย่อยอีกออกเป็น
- พนักงานเปิดประตู (Doorman)
- เจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวก (Concierge) มีหน้าที่ช่วยเหลือแขกในเรื่องจิปาถะ
- เจ้าหน้าที่ดูแลแขกพิเศษ (Quest Relations Officer)
- พนักงานสัมภาระภาคกลางคืน (Night Porter) เป็นคนที่ทำแทนตำแหน่งอื่นที่ไม่มีคนอยู่เวรด้วยในตอนกลางคืน โดย Night Porter จะรับช่วงงานต่าง ๆ ของแผนกต้อนรับตั้งแต่ประมาณ 23.00 น. หรือ 24.00 น. ไปถึงเช้าของอีกวัน
- พนักงานรับโทรศัพท์ (Telephone หรือ Telephone Operator) มีหน้าที่รับโทรศัพท์ที่เรียกเข้ามาแล้วโดนไปตามบุคคลและแผนกต่าง ๆ จดข้อความเมื่อมีคนโทรศัพท์ถึงแขกที่บังเอิญไม่อยู่ในโรงแรมในขณะนั้น โทรศัพท์ปลุกแขก
- เจ้าหน้าที่สำรองห้องพัก (Reservations Clerk) ทำหน้าที่ยืนยันการจองทางจดหมายหรือแฟกซ์
- พนักงานแคชเชียร์ (Cashier) เก็บเงินและอันวยความสะดวกเกี่ยวกับเรื่องเงินตรา


ดูไปแล้วก็เป็นอาชีพที่น่าสนใจในสายการท่องเที่ยวและผู้ที่มีความถนัดทางด้านภาษางานหนึ่งเลยนะคะ
โรงแรมมีหลายระดับ ไม่ว่าจะเป็นโรงแรมธุรกิจหลายดาวกลางเมือง โรงแรมเล็กๆ
สำหรับผู้ที่มาพักผ่อนหาความสงบ โรงแรมชั้นประหยัด ไปจนถึงบ้านพักเยาวชน โฮสเทล
เบดแอนด์เบรกฟาสท์ ฯลฯ
ทำให้เงินเดือนของพนักงานโรงแรมมีหลายระดับไปด้วย แม้ว่าเงินเดือนจะเทียบไม่ได้กับอีกหลายอาชีพที่ใช้คุณสมบัติคล้ายๆ
กัน แต่การทำงานในงานประเภทนี้ก็น่าจะได้รับประสบการณ์ที่หาจากไหนไม่ได้ และอาจจะหมายถึงการได้ไปทำงานในหลายๆ
ประเทศและการได้พบกับคนหลากหลายชาติหลากหลายวัฒนธรรมอีกด้วยค่ะ